ทีมชาติเยอรมนีต้องลุ้นหนักในการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มศึกยูโร 2024 กลุ่ม เอ หลังจากที่ตามหลังสวิตเซอร์แลนด์ตั้งแต่นาทีที่ 28 แต่ในที่สุด นิคลาส ฟืลล์ครุก ที่ลงมาเป็นตัวสำรองก็มาทำประตูตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลัง ทำให้เยอรมนีได้เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์ของกลุ่ม

แมตช์นี้ไม่เพียงแต่นำความดีใจให้กับแฟนบอลเจ้าถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีเกร็ดน่าสนใจหลายอย่างเกิดขึ้น เช่น อัตตราต่อรองการลุ้นแชมป์ของทีมชาติเยอรมันขยับสูงขึ้น (สามารถเช็ดราคาอัพเดทปัจจุบันได้ด้วยการ สมัคร sbobet) ความสำเร็จต่อเนื่องของโทนี่ โครส มิดฟิลด์จอมเก๋าของทีม และผลงานโดดเด่นของนิคลาส ฟืลล์ครุก ซูเปอร์ซับของทีม

ฟืลล์ครุก ซูเปอร์ซับ
นิคลาส ฟืลล์ครุก กลายเป็นฮีโร่ของแฟนบอลเยอรมนีอีกครั้งหลังจากที่ทำประตูตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โดยนี่เป็นประตูที่ 2 ของเขาในรายการยูโร 2024 หลังจากที่เขาทำประตูแรกในเกมที่เยอรมนีถล่มสกอตแลนด์ 5-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งในเกมนั้นเขาก็ลงมาเป็นตัวสำรองเช่นกัน ฟืลล์ครุกทำประตูในฐานะตัวสำรองไปแล้ว 4 ครั้งในรายการระดับเมเจอร์ทั้งยูโรและฟุตบอลโลก ทำให้เขาเป็นนักเตะจากทวีปยุโรปที่ทำประตูในรายการระดับเมเจอร์ในฐานะตัวสำรองได้มากที่สุด

เกมรุกที่กลับมาน่าประทับใจ
เยอรมนีทำประตูในรอบแบ่งกลุ่มได้ครบทั้ง 3 นัด รวมกันทั้งหมด 8 ประตู ซึ่งนับเป็นจำนวนประตูที่เยอรมนีทำได้มากที่สุดในรอบแบ่งกลุ่มของรายการระดับเมเจอร์ตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมนีก็เป็นเจ้าภาพเช่นกัน โดยในครั้งนั้นเยอรมนีทำประตูในรอบแบ่งกลุ่มได้ 8 ลูกจากการชนะคอสตาริก้า 4-2, ชนะโปแลนด์ 1-0 และชนะเอกวาดอร์ 3-0

โทนี่ โครส จอมผ่านบอล
โทนี่ โครส เป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในศึกยูโร 2024 เนื่องจากเขาประกาศว่าจะเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพหลังจบรายการนี้ แม้ว่าจะอายุ 34 ปี แต่โครสยังคงเล่นได้โดดเด่น หนึ่งในหลักฐานที่ยืนยันความสามารถของเขาคือ ใน 3 นัดของรอบแบ่งกลุ่ม โครสผ่านบอลเข้าเป้าได้ถึง 323 ครั้ง ทำให้เขาทาบสถิติการเป็นนักเตะที่ผ่านบอลเข้าเป้าในรอบแบ่งกลุ่มของศึกยูโรได้เยอะที่สุดตลอดกาลในกรณีที่นับเป็นจำนวนครั้ง สถิตินี้เคยถูกสร้างขึ้นโดยโครสเองในศึกยูโร 2016 ที่เขาผ่านบอลไปถึงเพื่อนร่วมทีม 323 ครั้งจากการเล่น 3 นัดของรอบแบ่งกลุ่ม

หากคิดเป็นค่าเฉลี่ยต่อ 90 นาที โครสในศึกยูโร 2024 กำลังเป็นนักเตะที่ครองอันดับ 1 ในด้านนี้ เพราะเขาผ่านบอลเข้าเป้าเฉลี่ย 119 ครั้งต่อ 90 นาที ส่วนอันดับ 2 ก็คือ โครสในปี 2016 ที่ผ่านบอลเข้าเป้า 94 หนต่อ 90 นาที แต่สถิติในปี 2016 นับจากรอบอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงต้องรอดูผลงานของโครสในรอบน็อคเอาต์ของยูโร 2024 ว่าค่าเฉลี่ยนี้จะดร็อปลงหรือไม่

สรุป
การเสมอกับสวิตเซอร์แลนด์และการเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่ม เอ ของเยอรมนีไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะที่ทำให้แฟนบอลเฮลั่นสนาม แต่ยังเต็มไปด้วยเกร็ดที่น่าสนใจ เช่น ความสำเร็จของฟืลล์ครุกในการทำประตูในฐานะตัวสำรอง และความสามารถในการผ่านบอลที่ยอดเยี่ยมของโทนี่ โครส ทั้งหมดนี้ทำให้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของทีมชาติเยอรมนีในการแข่งขันครั้งนี้